ประเภทของกระดาษอาจจำแนกเป็นประเภทต่าง ๆ ดังต่อไปนี้. 1. กระดาษไม่เคลือบ แบบเรียบ A. กระดาษปอนด์ขาว, สี (White & Colour Woodfree) กระดาษที่ผลิตจากเยื่อแท้(Virgin Pulp) และไม่มี การเคลือบหน้าแป้ง ได้แก่ กระดาษปอนด์ขาว, กระดาษ K-One 120, 140 แกรม, กระดาษถ่ายสี KTV, กระดาษ K-Colour, กระดาษ Sirio, กระดาษ Extra Strong, กระดาษไข 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 133 - 150 lpi 2. ไม่สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เนื่องจากไม่มีหน้าแป้งทำปฏิกิริยากับน้ำยาบนฟิล์ม Laminate 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 6. โปรดระวังความชื้นขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น โดยเฉพาะกระดาษไขซึ่งมีลักษณะการอมความชื้นในอากาศได้มากกว่ากระดาษทั่วไปถึง 2 เท่า B. กระดาษการ์ดขาว, สี (White & Colour Briefcard) กระดาษที่ผลิตเป็นจากเยื่อแท้ และ เศษกระดาษ บางโรงงานก็ใช้วิธีการประกบแผ่นกระดาษก็ได้ ตัวอย่างกระดาษ การ์ดขาวทั่วไป, K-Card, K-One 165 แกรมขึ้นไป 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 150 lpi 2. ไม่สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เนื่องจากไม่มีหน้าแป้งทำปฏิกิริยากับน้ำยาบนฟิล์ม Laminate 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น
2. กระดาษไม่เคลือบ แบบมีลาย A. กระดาษลายนูนปกติ (Feltmarked Paper) กระดาษที่ผลิตด้วยเยื่อยาวหรือ Recycle และมีการปั้มลายในกระบวนการผลิตกระดาษ (Feltmarked) เช่น ACQ,Tintoretto, Tin-M, Corolla, Galgo Laid, Galgo Linen 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 133-150 lpi (แล้วแต่ความลึกของลาย) 2. ไม่สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เนื่องจากไม่มีหน้าแป้งทำปฏิกิริยากับน้ำยาบนฟิล์ม Laminate 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น B. กระดาษปั้มลายนูน (Embossed Paper) กระดาษที่ผลิตด้วยเยื่อยาวหรือ Recycle และมีการปั้มลายจากกระดาษเรียบ (Offline Embossed) เช่น กระดาษหนังช้าง, Woodstock, Tweed 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 133-150 lpi (แล้วแต่ความลึกของลาย) 2. ไม่สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เนื่องจากไม่มีหน้าแป้งทำปฏิกิริยากับน้ำยาบนฟิล์ม Laminate 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น 3. กระดาษเคลือบ แบบเรียบ A. กระดาษอาร์ตมัน (Glossy Coated Paper) กระดาษอาร์ตด้าน (Matt Coated Paper) กระดาษที่มี การเคลือบหน้าแป้งทั้งหน้าเดียว และ 2 หน้า เช่น กระดาษอาร์ตมัน-ด้าน JP, กระดาษอาร์ตการ์ดมันด้าน NBS,NV ,กระดาษอาร์ตการ์ดหน้าเดียว Zenith และกระดาษ Symbol ต่าง ๆ 1 เม็ดสกรีน (Screen Line) 175-200 lpi 2. สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) เฉพาะอาร์ตมันเท่านั้น ส่วนอาร์ตด้านอาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เพราะหน้ากระดาษไม่มีการขัดทำให้น้ำยาบนฟิล์ม Laminate ติดได้ไม่เรียบ 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ และจะมีความสวยงามมากขึ้น ถ้าอาร์ตมันทำการเคลือบพลาสติกด้านก่อน 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) แต่มีโอกาสทำให้หน้าแป้งแตกออกได้ถ้าน้ำหนักปั้มกดมากเกินไป 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น B. กระดาษเคลือบมุก (Pearlize Coated Paper) กระดาษที่มีการเคลือบผงมุก, เงิน หรือ ทอง เช่น กระดาษ Stardream, Stardream Seta, Astrosilver 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 150-175 lpi (ขึ้นอยู่กับความลึกของกระดาษ และ โทนสีของงานพิมพ์) 2. สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) แต่อาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เพราะหน้ากระดาษไม่มีการขัดทำให้น้ำยาบนฟิล์ม Laminate ติดได้ไม่เรียบ 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่อาร์ตมันควรทำการเคลือบพลาสติกด้านก่อนถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) แต่มีโอกาสทำให้หน้าแป้งแตกออกได้ถ้าน้ำหนักปั้มกดมากเกินไป 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น C. กระดาษเคลือบแก้ว (Cast Coated Paper) 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 133-150 lpi 2. ไม่เหมาะกับการพิมพ์ 4 สี แต่ถ้าต้องการพิมพ์ ควรใช้หมึก UV เหมือนการพิมพ์บนพลาสติก เพราะการรับหมึกน้อยมาก ๆ 3. ไม่เหมาะกับการเคลือบพลาสติก(Poly Lamination) 4. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ 5. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 6. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 7. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น
4. กระดาษเคลือบ แบบมีลาย A. กระดาษอาร์ตอัดลาย (Embossed Coated Paper) เป็นกระดาษที่มีการเคลือบหน้าแป้งแล้วนำมาปั้มลายนูนทีหลัง ได้แก่ กระดาษ Raster 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 150-175 lpi (ขึ้นอยู่กับความลึกของกระดาษ และ โทนสีของงานพิมพ์) 2. สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) แต่อาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เพราะหน้ากระดาษไม่มีการขัดและลายนูน ทำให้น้ำยาบนฟิล์ม Laminate ติดได้ไม่เรียบ 3. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 4. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 5. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) แต่มีโอกาสทำให้หน้าแป้งแตกออกได้ถ้าน้ำหนักปั้มกดมากเกินไป 6. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่น B. กระดาษลายนูนเคลือบแป้งชนิดบางเบา (Slightly Coated Paper) เป็นกระดาษลายนูนที่มีการเคลือบหน้าแป้งบางๆ เพื่อทำให้ผลของการพิมพ์รับหมึกดีขึ้น ได้แก่ กระดาษ Insize Chagall 1. เม็ดสกรีน (Screen Line) 150-175 lpi (ขึ้นอยู่กับความลึกของกระดาษ และ โทนสีของงานพิมพ์) 2. สามารถพิมพ์ 4 สีได้ดีเหมือนกระดาษหน้าแป้ง แต่อัตราการแห้งตัวของหมึกจะมากกว่า 3. สามารถเคลือบพลาสติกได้ (Poly Lamination) แต่อาจทำให้เกิดฟองอากาศได้ เพราะหน้ากระดาษไม่มีการขัดและลายนูน ทำให้น้ำยาบนฟิล์ม Laminate ติดได้ไม่เรียบ 4. สามารถทำ UV Spot, Varnish Silk Screen ได้ แต่ต้องทำหลายรอบถึงจะเห็นชัดขึ้น 5. สามารถปั้มฟอยล์ได้ (Hot Foil Stamping) 6. สามารถปั้มนูน และ ปั้มขาดได้ (Embossing & Die Cutting) 7. โปรดระวังความชื้นในขณะมีฝน ทำให้กระดาษโค้งงอหรือเป็นคลื่นถ้าน้ำหนักปั้มกดทับมากเกินไป
แหล่งที่มา : www.paperlandonline.com | |